Robotic Process Automation (RPA) & Optical Character Recognition (OCR)
เกี่ยวข้องกันยังไงนะ ?
Robotic Process Automation (RPA)
คือ ซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการทำงานซ้ำซากน่าเบื่อ ที่มีตรรกะขั้นตอนชัดเจน เช่น การตรวจสอบข้อมูลในระบบ Website เพื่อนำข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือสนใจมาป้อนในระบบต่างๆ การสำรวจข้อมูลทางการตลาด, การรวบรวมข้อมูลราคาสินค้า เป็นต้น หรือจะเป็น การอ่าน Email เพื่อนำข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแต่ละธุรกิจไปป้อนลงระบบต่างๆ เช่น CRM และอื่นๆ
OCR (Optical Character Recognition)
จะดีแค่ไหนหากคุณไม่ต้องเปิด PDF เพื่ออ่านข้อมูลด้วยตัวเองอีกต่อไป RPA สามารถสร้าง Robot เพื่ออ่านเอกสารไฟล์ PDF, jpeg, png และอื่นๆ ให้คุณได้แล้ว รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวลงในไฟล์เอกสารต่างๆได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ใช่แล้ว OCR (Optical Character Recognition) ที่เราพูดถึงนี้ คือเทคนิคเพื่อแปลงข้อความ ภาษา ตัวเลขจากรูปภาพ ออกมาเป็นข้อมูลดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว
Invoice ที่นำมาใช้อ้างอิงจาก : https://invoicehome.com/
ประโยชน์ต่อองค์กร เมื่อนำ RPA กับ OCR มาเพื่อใช้งานร่วมกัน
ในแง่ของบริษัท ประโยชน์จากการทำให้แรงงานที่มีคุณค่าทำให้องค์กรสามารถนำพนักงานไปทำงานด้านอื่นที่ต้องใช้ ความรู้ ความสามารถที่มากกว่า และเกิดประโยชน์ต่อบริษัทที่มากกว่าได้ อีกทั้งลดต้นทุนด้านทรัพยากรการใช้กระดาษในการจัดทำเอกสารภายในองค์กรอีกด้วย เช่น หากบริษัทคุณต้องการนำข้อมูลจากใบ Invoice หลายๆใบ เพื่อป้อนลงในระบบ SAP OCR จะสามารถแปลงไฟล์ภาพเอกสาร ให้เป็นข้อความแบบอัตโนมัติ และ RPA นำข้อมูลกรอกลงในโปรแกรม SAP ด้วยระยะเวลาที่รวดเร็ว
แต่ข้อควรระวัง ของการใช้ OCR คือ “ความถูกต้อง และครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล” นั่นหมายความว่าปัจจัยที่จะทำให้ข้อมูลที่จะถูกส่งออกมาไม่ถูกต้องและสมบูรณ์ก็มี เช่น ต้นฉบับเอกสารที่ไม่ชัดเจน การถ่ายเอกสารด้วยมือถือ หรือการนำเอกสารที่ทำสำเนาหลายต่อหลายครั้งมาใช้ เป็นต้น
ดังนั้น RPA จึงไม่ใช่แค่โปรแกรมมีความสามารถด้านจัดการข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถดึง ข้อความ ตัวอักษร ตัวเลข ออกมาจากรูปภาพได้อีกด้วย คุณจะสามารถจัดการกับเอกสารได้รวดเร็วกว่าเดิมมากเลยทีเดียว